พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย)

 สมัยสุโขทัย  
   พระมหาธรรมราชาที่๑ (พญาลิไท)


                
พระราชประวัติ
   พระมหาธรรมราชาที่ ๑ ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้าเลอไท และเป็นพระนัดดาของพระเจ้ารามคำแหงมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์พระ ร่วง ครองกรุงสุโขทัย เมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๐ - พ.ศ. ๑๙๑๒ (๑๙๑๔) ก่อนขึ้นครองราชสมบัติทรงดำรงตำแหน่งอุปราช ครองเมืองศรีสัชนาลัย ตั้งแต่ พ.ศ.   ๑๘๘๓ - พ.ศ.๑๘๙๐ ใน พ.ศ. ๑๘๙๐ เมื่อพระยางั่วนำถม พระมหากษัตริย์ครองราชสมบัติ ณ กรุงสุโขทัย ได้เสด็จสวรรคตได้เกิดการจราจลชิงราชสมบัติกรุงสุโขทัยขึ้น พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ทรงสามารถยกกองทัพมาปราบปรามศัตรูได้หมดสิ้น และเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์องค์ที่ ๖ แห่งราช วงศ์พระร่วงเฉลิมพระนามว่า ศรีสุริยพงศ์รามมหาธรรมราชาธิราช
เมื่อพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระเจ้าอู่ทอง ได้ส่งกองทัพจากศรีอยุธยามาโจมตี และยึดเมือง พิษณุโลก (สองแคว) ไว้ได้ ทำให้อาณาจักรสุโขทัยเกิดความไม่มั่นคง และไม่ปลอดภัย เพราะเมืองพิษณุโลกอยู่ใกล้กับสุโขทัยมาก ดังนั้น พระมหาธรรมราชาที่๑ (พระยาลิไท) จึงทรงส่งคณะราชฑูต ไปขอเจริญพระราชไมตรีกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง)และได้ขอเมืองพิษณุโลกคืนจากสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) ซึ่งก็ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ หลังจากนั้นพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ก็ทรงเสด็จไปประทับอยู่ ณ เมืองพิษณุโลก เป็นเวลา ๗ ปี คือ ตั้งแต่ พ.ศ. ๑๙๐๕ - พ.ศ. ๑๙๑๒ เพื่อป้องกันมิให้ทางกรุงศรีอยุธยา ส่งกองทัพไปรุกรานกรุงสุโขทัยและทรงมอบให้พระขนิษฐาองค์หนึ่งของ พระองค์ปกครอง กรุงสุโขทัยแทน
 ในปี พ.ศ. ๑๙๑๒ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) เสด็จสวรรคต พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ได้เสด็จกลับไปครองกรุงสุโขทัยดังเดิม


พระราชกรณียกิจ
    พระราชกรณียกิจที่สำคัญในรัชสมัยของพระองค์มีดังนี้
 1. ทรงรวบรวมราชอาณาจักรสุโขทัยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และขยายพระราชอำนาจออกไปได้เมืองระหว่างแควจำปาสักกับแม่น้ำปิง จนจดแม่น้ำน่านทาง ทิศเหนือ มาไว้ในราชอาณาจักรสุโขทัย
2.ด้านศาสนา พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ทรงมีบทบาทสำคัญในการทำนุบำรุงและเผยแพร่พระพุทธศาสนา กล่าวคือ ได้ส่งพระ สงฆ์ออกไปเผยแพร่ พระพุทธศาสนายังที่ต่าง ๆ เช่น ที่เมืองเชียงใหม่ พิษณุโลก อยุธยา และหลวงพระบาง ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมพระเจดีย์เมืองนครชุม (กำแพงเพชร) พ.ศ. ๑๙๐๒ ทรงประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่เขาสุมนกุฏ ซึ่งอยู่นอกเมืองสุโขทัย พ.ศ. ๑๙๐๔ โปรดให้สร้างวัด ป่ามะม่วง (สุโขทัย) พระองค์ทรงมีความเคารพเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก ได้ผนวชเป็นสามเณรในพระราชมณเฑียร และผนวชเป็นพระภิกษุที่วัดป่ามะม่วง ในกรุง สุโขทัย ทรงโปรดให้หล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดเท่ากับองค์พระพุทธเจ้า ถวายพระนามว่า พระศรีศากยมุนี ประดิษฐานที่พระวิหารวัดพระ ศรีรัตนมหาธาตุ สุโขทัย
3. ด้านภาษาและวรรณคดี พระองค์ทรงมีความเชี่ยวชาญในด้านภาษาและวรรณคดีเป็นพิเศษ ดังมี หลักฐานปรากฏในหนังสือไตรภูมิพระร่วง ว่าพระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ทรงนิพนธ์ขึ้นใน พ.ศ.๑๘๘๘ ครั้งยังดำรงพระยศเป็นพระมหาอุปราช ครองเมืองศรีสัชนาลัย หนังสือไตร ภูมิพระร่วงนี้ ซึ่งเป็นวรรณคดี ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา นับเป็นวรรณคดีไทยชั้นเยี่ยมเล่มแรกของไทย และทรงโปรดเกล้าฯ ให้จารึกเรื่องราวต่าง ๆ ในรัชสมัยของพระองค์ลงในแผ่นศิลา โดยเฉพาะศิลาจารึกกรุงสุโขทัยหลักที่ 4 ซึ่งมีคุณค่ายิ่งต่อการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยในสมัยสุโขทัย และประวัติศาสตร์ เมืองพิษณุโลกเป็นอย่างยิ่งพระราชกรณียกิจขณะทรงประทับอยู่ ณ เมืองพิษณุโลก
พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ทรงประทับอยู่ ณ เมืองพิษณุโลก เป็นเวลา ๗ ปี ได้ทรงสร้างเมืองพิษณุโลก และพระราชวังขึ้น ทางฝั่งตะวันตกของ แม่น้ำน่าน คือ พระราชวังจันทน์ ทรงสร้างปูชนียสถานและปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ ทรงสร้างวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หล่อพระพุทธชินราช ซึ่งเป็น พระพุทธรูปที่งดงามที่สุดในประเทศไทย พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำต้นโพธิ์จากลังกามาปลูกไว้ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร พิษณุโลก จากพระราชกรณียกิจที่พระมหาธรรมราชาที่ ๑ (พระยาลิไท) ได้ทรงกระทำแล้ว นับว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์องค์แรกที่ทรงวางรากฐาน และสร้าง ความเจริญในจังหวัดพิษณุโลก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (อู่ทอง)

สมเด็จพระสุริโยทัย